24/3/55
พ่ายแพ้ผิดหวัง
ผู้ที่เติบโตเต็มที่แล้ว
ย่อมไม่หลั่งน้ำตาเพื่อตนเอง
ยามที่ชีวิตพบกับความทุกข์ทรมาน
และพ่ายแพ้อย่างยับเยินต่ออุปสรรคของชีวิต
ความกล้าหาญที่แท้จริง
มิใช่กล้าพลีชีวิต
แต่ต้องกล้าที่จะอยู่เพื่อสู้ต่อไป
ไม่มีใครไม่เคยผิดหวัง
คนโง่เท่านั้นที่จะซ้ำเติมตัวเองในยามผิดหวัง
สุนัขยังไม่ซ้ำเติมตัวเอง
ที่ต้องเกิดมาเป็นสุนัขขี้เรื้อนข้างถนน
เมื่อพลาดพลั้งหกล้ม
ควรหรือที่จะนั่งร้องให้
จงรีบลุกขึ้น
เพื่อที่จะเดินต่อไปอย่างไม่ประมาท
สิ่งที่เรามองข้าม
บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง เขาเขียนขึ้นในวันที่ 11 กันยายน (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม) หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้นด้วย.. ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ อยากให้ทุกคนได้อ่าน ข้อความนี้ มีความหมายดีนะ
ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า
แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น…………
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น……จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว
จงแสวงหา การหยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก…
จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…….
กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า…….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย
เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง
และเวลานี้….
ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีเวลาที่จะ copy ข้อความนี้ไปให้คนที่คุณรักอ่าน…… แล้วคิดว่า….สักวันหนึ่ง………..ค่อยส่ง.. จงอย่าลืมคิดว่า….สักวันหนึ่ง…..วันนั้น คุณอาจไม่มีโอกาสมานั่งตรงนี้เพื่อทำอย่างที่คุณต้องการอีกก็ได้
ศักดิ์ศรี
พูดถึงเรื่องอัตตาตัวตนบางคนฟังไม่ถูก จึงขอพูดถึงอาการของอัตตาที่ค่อนข้างชัดเจน
นั้นคือสิ่งที่เราเรียกว่าศักดิ์ศรี
เราควรจะดูตัวเองให้เป็นว่า
ศักดิ์ศรีของเราอยู่ตรงไหน
เพราะศักดิ์ศรีเป็นจุดอ่อนของเรา
เป็นทีเกิดของทุกข์
สิ่งใดก็ตามแม้แต่ขี้ปะติ๋ว
หากกระทบศักดิ์ศรีของเราเมื่อใดก็เป็นเรื่องเมื่อนั้นทันที
ถ้าเราเอาการรักษาศักดิ์ศรีเป็นเครื่องตัดสินว่า
เราจะทำหรือไม่ทำอะไรในชีวิต
เราควรจะระวังให้ดีว่า
เราผูกศักดิ์ศรีของเราไว้กับอะไรบ้าง
ตราบใดที่เรายังเป็นปุถุชนคงยังไม่พ้นความยึดมั่นในศักดิ์ศรี
แต่อย่างน้อยที่สุดเราควรจะพัฒนามัน
จนขึ้นอยู่กับการเป็นพุทธมามกะมากกว่าอย่างอื่น
การมีอัตตาหรือการเป็นชาวพุทธที่ดียังมีโทษอยู่
แต่สำหรับนักปฏิบัติธรรมอาจใช้ความรู้สึกในศักดิ์ศรี
มาหนุนกำลังความละอายต่อบาปในเบื้องต้น
และเป็นขั้นตอนที่จะนำไปสู่ความปลอดภัยในที่สุด
ทุกวันนี้เราเอาอะไรมาเป็นศักดิ์ศรีของตน ขอให้ดูให้ดี
เพราะถ้าไม่ระวังในเรื่องนี้ เดี๋ยวจะกีดกั้นความเจริญในธรรม
มัวแต่เป็นห่วงเรื่องมายา
คือเอาแต่กังวลเรื่องความรู้สึกของเขาต่อเรา อย่างนี้ก็ยุ่ง
ถ้าศักดิ์ศรีของเราขึ้นอยู่กับความมั่นใจว่า
เขารักเราจริง เขาเคารพเราจริง เขากลัวเราจริง ฯลฯ
อย่างนี้ไม่มีวันที่จะสงบได้
เราจะอ่อนไหวต่อการกระทำของคนอื่นตลอดเวลา
เขาทำอย่างนั้นแปลว่าอะไร
เขาไม่ทำอย่างนั้นแปลว่าอะไร
เขาพูดอย่างนั้นแปลว่าอะไร
เขาเงียบอย่างนั้นแปลว่าอะไร
เขายิ้นอย่างนั้นแปลว่าอย่างไร
เขาหน้าตาเฉยอย่างนั้นแปลว่าอย่างไร
เป็นนักแปลอย่างนี้เหน็ดเหนื่อยมาก
(คัดลอกบางตอนมาจาก “ปัจจุบันสดใส” โดย พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ,
พิมพ์ครั้งที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๓ โดย กองทุนสื่อธรรมะทอสี และมูลนิธิปัญญาประทีป, หน้า ๑๖-๑๙)
Thank Happyhappiness
พิมพ์ครั้งที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๓ โดย กองทุนสื่อธรรมะทอสี และมูลนิธิปัญญาประทีป, หน้า ๑๖-๑๙)
Thank Happyhappiness
6/3/55
บางเวลาของชีวิต
บางช่วงเวลาของชีวิต เคยรู้สึกบ้างไหมว่า "ตัวเองกำลังประสบกับความล้มเหลว" ถ้าเคย ... ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถ้ามีคำว่า"ความสำเร็จ" ก็ต้องมีคำว่า "ล้มเหลว" เป็นของคู่กัน เพียงแต่ว่าคุณจะต้องรับกับสถานการณ์ความล้มเหลวแล้วลุกขึ้นสู้ อีกครั้งได้อย่างไร? ชีวิตนับหนึ่งได้ และเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ โดยยึดหลักง่าย ๆ ไว้เตือนใจตัวเองว่า....
'๑' = ทำดีที่สุดแล้ว = '๑'
คนที่ไม่เคยล้มเหลวคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย คนที่ประสบความล้มเหลว คือคนที่น่ายกย่องมากกว่า เพราะอย่างน้อยก็ได้ลงมือทำ อย่ากลัวกับ ความล้มเหลวที่จะเกิดขึ้น เพราะมันจะเป็นบทเรียนและประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ ให้เราได้เรียนรู้ว่า หนทางแห่งความสำเร็จอยู่ตรงไหน ... อย่างไร? ให้คิดเสียว่า ... "เราทำดีที่สุดแล้ว"
'๒' = อย่ายอมแพ้ = '๒'
ไม่มีใครจะแพ้ตลอด และไม่มีใครจะเป็นผู้ชนะตลอดกาลฉะนั้น จงอย่ายอมแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแพ้ใจตัวเอง ทุกครั้งที่คุณหกล้มหรือก้าวพลาด จงอย่า ยอมแพ้ ให้ลุกขึ้นสู้และก้าวเดินต่อไปอย่างสง่างามอีกครั้ง แพ้อะไรก็แพ้ได้แต่ อย่าแพ้ใจตัวเองก็แล้วกัน เพราะถ้าเราแพ้ใจตัวเอง นั้นหมายถึงเราโดนน๊อคตั้งแต่ ยังไม่เริ่มชกแล้ว จงบอกกับตัวเองว่า หนทางแห่งชัยชนะยังรอคุณอยู่ข้างหน้า ค่อย ๆ ตั้งสติ คิดอย่างมีสติ และรอบคอบ แล้วลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง
'๓' = นับหนึ่งถึงร้อย = '๓' ทุกครั้งที่ท้อถอย หรือหมดกำลังใจ ก่อนจะเดินถอยหนี หยุดคิดสักนิด ลองนับ หนึ่งถึงร้อยก่อน อย่าตัดปัญหาด้วยการทิ้งปัญหา และหันหลังเดินจากไป นั่นไม่ใช่ วิธีการแก้ปัญหาที่ดี เพราะปัญหามันยังคงหมักหมมอยู่ตรงนั้น จงบอกกับตัวเอง ให้อดทน..อดทน...และอดทน รอวันเวลาและโอกาสที่จะมาถึง แล้วค่อย ๆ เดิน หน้าสู้ต่อไป
'๔' = เหนื่อยนักก็พักก่อน = '๔'
วันนี้อาจจะเหนื่อย และท้อแท้กับปัญหาที่เกิดขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ดีอย่าง หนึ่งที่คอยเตือนให้เรารู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหยุดพักเสียบ้าง หยุดพักเพื่อที่จะทบทวนกับปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หยุดพักเพื่อถอยออกมา หนึ่งก้าว แล้วมองย้อนไปมองดูปัญหาในอีกมุมหนึ่ง บางที่อาจทำให้เรามองเห็น ปัญหาในมุมที่กว้างขึ้น การหยุดพักไม่ได้หมายถึงการทำให้เราต้องยอมแพ้ หรือถอยหลัง แต่การหยุด พักจะทำให้เราได้ชาร์ทแบตเตอรี่ หรือเติมกำลังใจให้เข้มแข็งขึ้น และมีเรียวแรง ที่จะสู้กับปัญหาต่อไป
'๕' = หยุดคิดเพื่อทบทวน = '๕'
การหยุดคิดเพื่อทบทวนจะทำให้เราแก้ปัญหาได้ดีขึ้น เพราะบางทีการหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนาน ๆ อาจทำให้เรามองไม่เห็นปัญหา หรือวนอยู่กับปัญหานั้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ และถึงทางตันจนหาทางออกไมเจอ อย่าลืมว่าในมุมมืดที่สุดก็ต้องมีมุมสว่างเล็ดลอดอยู่บ้าง ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทบทวน แล้วเราจะค้นพบทางสว่างและหาทางออกเจอในที่สุด ๐ บางทีทางออกใหม่จะดีกว่าทางเดิมที่เราเคยเดินมาเสียอีก ๐
'๖' = โอกาสต้องเป็นของคุณ = '๖'
วันนี้ ... เวลานี้ โอกาสอาจยังไม่เป็นของเรา แต่วันข้างหน้าโอกาสต้องเป็นของ เราไม่ช้าก็เร็ว อย่างน้อยตอนนี้เราก็มีเวลาอย่าเพียงพอที่จะเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ ความเชื่อมั่น และพลังใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคให้ประสบความสำเร็จ ได้ต่อไป
'๗' = ต้องชนะ = '๗'
เมื่อเราเรียนรู้ที่จะแพ้ เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะชนะด้วย ชัยชนะอาจไม่ได้มาง่าย ๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะแพ้ตลอดไป "อย่ากลัวที่จะแพ้ และอย่าประมาท กับชัยชนะที่จะมาถึง" จงเรียนรู้จากบทเรียนของความพ่ายแพ้ และนำสิ่งนั้นมาเป็นหนทางสู้ต่อเพื่อให้ได้ มาซึ่งชัยชนะ เมื่อเราเคยแพ้ เรายิ่อมรู้ดีว่าวิธีที่จะนำมาซึ่งชัยชนะนั้นต้องทำ อย่างไร? จงบอกกับตัวเองว่า เราจะต้องเป็นผู้ชนะให้ได้
'๘' = กล้าที่จะฝัน = '๘'
คนที่ไม่เคยมีความฝันคือคนที่ตายแล้ว ไม่ผิดที่ทุกคนจะฝัน เพราะมนุษย์ทุกคน ย่อมมีความฝัน และฝันของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป จงกล้าที่จะฝัน และทำสิ่งที่ท้าทายความฝันนั้น แต่อย่าทะเยอทะยานจนเกินความ เป็นจริง จงก้าวทีละขั้น ก้าวช้า ๆ ก้าวอย่ามั่นใจ เพื่อทำให้ทุกความฝันของเรา เป็นจริง
'๙' = คิดและวางแผน = '๙' จะถูกบ้างผิดบ้างก็ไม่เป็นไร แต่จงคิดและวางแผนของเราเสียแต่วันนี้บางทีความ คิดของเราอาจจะเข้าทางใครสักคน หรือเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ อย่าดูถูกความคิดของ ตัวเอง อย่าคิดว่าความคิดของเราเป็นเรื่องประหลาด บางทีความคิดประหลาดอาจ เป็นความคิดที่เข้าท่าก็ได้ อย่าลืมว่า ความคิดแปลก ๆ ใหม่ ๆ สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในโลกมามากแล้ว ลองคิดดัง ๆ แล้วบอกความคิดของเราให้คนรอบข้างได้รู้บ้าง บางทีความคิดดี ๆ ของเราอาจจะเป็นของขวัญชิ้นโบว์แดงสำหรับโลกก็ได้ ใครจะรู้
'๑๐' = ไปให้ถึงเป้าหมาย = '๑๐'
มนุษย์ทุกคนต่างก็มุ่งไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จข้างหน้าด้วยกันทั้งนั้น จะไป ได้ช้าหรือเร็วนั้น อยู่ที่วิธีการและแนวทางของแต่ละคน กว่าจะถึงภูเขาที่สูงชันย่อมต้องเจอกับขวากหนามที่แหลมคม สติและสมาธิที่ มุ่งมั่นเท่านั้นที่จะทำให้เราเดินผ่านขวากหนามได้ ผู้ฉลาดเท่านั้นย่อมเรียนรู้ที่จะใช้ข้อผิดพลาดนั้นให้เป็นประโยชน์ และผู้ที่อดทน เท่านั้นที่จะก้าวไปสู่ยอดเขาอันสูงชันได้ ยอดเขาสูงชัน ... ยิ่งสูงยิ่งหนาว แต่เราจะไม่เหน็บหนาวเพียงลำพัง ถ้าเราไม่ ลืมว่าบรรยากาศบนพื้นดินที่เคยเดินผ่านมานั้นเป็นอย่างไร
๐ ให้โอกาสและกำลังใจกับตัวเอง และจงบอกกับตัวเองเสมอว่า...ชีวิตนับหนึ่งได้เสมอ ๐
5/3/55
น่ารักๆความหมายดี
我跟佛祖許愿求 保佑你,給你幸福,快樂一世
佛祖说 : 不能一世 只有四天
我说 : 那就 冬天, 春天,夏天,秋天
佛祖说 : 只有三天
我说 : 那就 今天 , 明天, 後天
佛祖说 : 只有二天
我说 : 那就 白天, 黑天
佛祖说 : 只有一天
我说 : 那就 每一天
佛祖看着我笑说 : 好把 那就 每一天
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)