10/7/56

นิทานเซ็น ความในใจซือหม่าเจา แม้คนผ่านทางยังล่วงรู้



นิทานเซ็น ความในใจซือหม่าเจา แม้คนผ่านทางยังล่วงรู้
ซือหม่าเจา” (สุมาเจียว) เป็นคนรัฐเว่ย บิดาของเขาเป็นแม่ทัพแห่งรัฐเว่ยมีนามว่า ซือหม่าอี้” (สุมาอี้) เมื่อครั้งที่อ๋องแห่งรัฐเว่ย เว่ยหมิงตี้ เฉารุ่ยเสด็จสวรรคต สองแม่ทัพแห่งรัฐเว่ย คือ เฉาส่วงและ ซือหม่าอี้จึงได้สนับสนุนและชักใยให้ อ๋องแห่งรัฐฉี เฉาฟังซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงของเฉารุ่ยขึ้นสืบราชสมบัติต่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ สองแม่ทัพแห่งรัฐเว่ยก็ย่อมอยู่ร่วมกันมิได้ จึงเกิดการแย่งชิงอำนาจกัน โดยในที่สุดซือหม่าอี้ก็สามารถกำจัดเฉาส่วงสำเร็จและยึดครองอำนาจทางการ เมืองและการทหารของรัฐเว่ยได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ต่อมาเมื่อแม่ทัพซือหม่าอี้เสียชีวิตลง บุตรชายคนโต ซือหม่าซือ” (สุมาสู) กลับเชิด เฉาเหมาราชนิกูลผู้มีวัยเพียง 13 ปี ขึ้นครองรัฐเว่ยแทนที่เฉาฟัง ส่งผลให้อำนาจของคนในตระกูลซือหม่ายิ่งใหญ่คับฟ้า อย่างไรก็ตามหลังจากเชิดฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองอำนาจได้ไม่นาน ซือหม่าซือกลับล้มป่วยลงอย่างกระทันหัน โดยระหว่างที่ป่วยหนักใกล้เสียชีวิตนั้นซือหม่าซือได้ยกอำนาจทั้งหมดให้กับ ซือหม่าเจา ผู้เป็นน้องชาย
ซือหม่าเจาเมื่อได้ครองตำแหน่งมหาเสนาบดีแห่งรัฐเว่ยก็ยิ่งลุแก่อำนาจ มักใหญ่ใฝ่สูงยิ่งกว่าบิดาและพี่ชาย คิดการณ์ใหญ่ถึงขั้นพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน โดย
ซือหม่าเจาได้ดำเนินแผนจัดการผู้ที่ไม่ยอมศิโรราบและตั้งตนเป็นศัตรูอย่างต่อเนื่อง
ด้านฮ่องเต้หนุ่มอย่าง เฉาเหมาเมื่อทราบแผนการณ์ของขุนนางใหญ่ ก็รู้ตัวดีว่าตนเองนั้นเป็นเพียงแค่ ฮ่องเต้หุ่นเชิดของซือหม่าเจา จึงวางแผนที่จะจัดการกับซือหม่าเจาบ้าง โดยหวังเสี่ยงใช้แผนยกกองกำลังบุกเข้าจู่โจมสังหารซือหม่าเจาอย่างเงียบ ๆ
วันหนึ่ง เฉาเหมาได้เรียกกลุ่มขุนนางคนสนิทเข้าเฝ้า โดยพระองค์ตรัสกับขุนนางเหล่านั้นว่า ความในใจซือหม่าเจา แม้คนผ่านทางยังล่วงรู้ ข้ามิอาจทนรองรับความอับอายของการถูกโค่นล้มโดยไม่ลงมือกระทำการใด ๆ ได้ ข้าต้องการให้พวกเจ้าไปจัดการกับซือหม่าเจาร่วมกับข้า
เหล่าขุนนางใหญ่ เมื่อได้ยินดังนั้น ต่างก็เห็นว่าวิธีการของเฉาเหมามิแตกต่างจากแมงเม่าบินเข้ากองไฟ จึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ฮ่องเต้หนุ่มอดทนอีกสักนิด โดยขุนนางผู้หนึ่งนามหวังจิงได้ลุกขึ้นกล่าวว่า
ณ วันนี้อำนาจทั้งหมดอยู่ในมือซือหม่าเจา ทั้งขุนนางบู๊และบุ๋นในราชสำนักต่างเป็นคนของเขา กำลังของพระองค์ถือว่ายังอ่อนแอนัก การลงมือกระทำการใด ๆ โดยวู่วาม อาจก่อให้เกิดผลร้ายที่คาดคิดไม่ถึงตามมาได้ พระองค์โปรดพิจารณาให้รอบคอบก่อน
อย่างไรก็ตาม เฉาเหมากลับไม่ฟังคำทักท้วงของเหล่าขุนนางทั้งหลาย โดยในที่สุด พระองค์ได้นำกำลังประกอบด้วยผู้ติดตามและราชองครักษ์หลายร้อยคนบุกเข้าจู่ โจมหวังสังหารซือหม่าเจา โดยมิทราบว่าในหมู่ขุนนางคนสนิทนั้นมีไส้ศึกที่เป็นคนของซือหม่าเจาปะปนอยู่ โดยไส้ศึกเหล่านั้นได้นำแผนการของพระองค์ไปบอกกับ
ซือหม่าเจาไว้ล่วงหน้าแล้ว ด้วยเหตุนี้ ซือหม่าเจาจึงใช้โอกาสดังกล่าว นำกำลังทหารมาปกป้องตัวเองและลงมือสังหารฮ่องเต้หนุ่ม เฉาเหมาเสีย
ภายหลัง ชาวจีนได้นำสำนวน ความในใจซือหม่าเจา แม้คนผ่านทางยังล่วงรู้มาใช้อธิบายถึงพฤติกรรม ประสงค์ หรือแผนการชั่วร้ายของบุคคลใด ที่แม้บุคคลนั้นจะไม่ประกาศหรือแสดงออกมาอย่างชัดเจน แต่คนทั่วไปก็สามารถรับรู้ได้
หมายเหตุ : ค.ศ.265 ซือหม่าเหยียน บุตรชายของซือหม่าเจา ได้ประกาศตั้งราชวงศ์จิ้นตะวันตก (ซีจิ้น) ขึ้นแทนที่ราชวงศ์เว่ยของเฉาเชาหรือโจโฉ และตั้งตนเป็นฮ่องเต้จิ้นอู่ตี้ (ขณะที่ยกย่องเชิดชูบิดาของตนคือซือหม่าเจาให้เป็นจิ้นเหวินตี้) โดยเมื่อถึงปี ค.ศ.280 จิ้นตะวันตกสามารถปราบก๊กอู๋ลงได้ ทำให้สภาพการแบ่งแยกอำนาจของสามก๊กสลายตัวลงและแผ่นดินจีนก็สามารถรวมเป็น หนึ่งเดียวได้อีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น