นิทานเซ็น ใช้ทองซื้อปัญญา
มีชายผู้หนึ่ง โง่เขลาเบาปัญญา มิหนำซ้ำฐานะยากจน อยู่มาวันหนึ่งด้วยโชควาสนาที่พอมีอยู่ ขณะที่ชายผู้นี้กำลังซ่อมแซมรั้วในสวนหลังบ้านซึ่งพังลงมาเพราะพายุฝน ได้บังเอิญขุดพบทองคำก้อนโตที่ฝังอยู่ริมรั้ว จนทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน แต่ด้วยความที่รู้ว่าสติปัญญาของตนเองค่อนข้างทื่อทึบ จึงเกรงว่าอาจจะถูกผู้อื่นมาหลอกลวงเอาเงินทองไป เขาจึงนำเรื่องไปปรึกษากับอาจารย์เซ็น
อาจารย์เซนแนะนำว่า “ในเมื่อตอนนี้ท่านมีเงิน
ส่วนผู้อื่นมีปัญญา เหตุใดไม่นำเงินของท่านไปแลกปัญญาจากผู้อื่นเล่า?”
ชายผู้เป็นเศรษฐีใหม่ผู้นี้
จึงได้พกพาคำแนะนำของอาจารย์เซน ไปหาพระที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ฉลาดปราดเปรื่องทรงภูมิรู้ผู้หนึ่ง
จากนั้นเอ่ยปากว่า “ท่านสามารถขายปัญญาของท่านให้กับข้าได้หรือไม่?”
พระรูปนั้นตอบว่า “ปัญญาของเรามีราคาแพงมาก”
ชายผู้โง่เขลาจึงรีบตอบว่า
“ขอเพียงสามารถซื้อปัญญามาประดับสมอง
แพงเท่าไหร่ข้าก็พร้อมยอมจ่าย”
เมื่อได้ฟังดังนั้น
พระจึงกล่าวว่า “อันว่าปัญญานั้น
คือเมื่อท่านประสบปัญหาใดก็ตาม อย่าใจเร็วด่วนได้รีบร้อนแก้ไข จงค่อย ๆ เดินหน้า 3
ก้าว จากนั้นถอยหลัง 3 ก้าว ทำเช่นนี้กลับไป-มาให้ครบ
3 รอบ เมื่อนั้นปัญญาจะเกิดขึ้น”
เมื่อชายผู้โง่เขลาฟังจบก็ได้แต่รำพึงในใจว่า
“ที่แท้ “ปัญญา” ง่ายดายถึงเพียงนี้จริงหรือ?” เขาเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่ง ใจหนึ่งเกรงว่าจะโดนพระหลอกลวงเงินทอง
ส่วนพระรูปนั้น เมื่อมองตาของชายผู้โง่เขลา ก็ล่วงรู้ถึงจิตเจตนาของอีกฝ่าย
จึงได้กล่าวว่า “ท่านยังไม่จำเป็นต้องเชื่อเราตอนนี้
จงกลับไปก่อน หากทบทวนดูแล้วคิดว่าปัญญาของเราไม่คุ้มกับเงินทองก็จงอย่าได้กลับมา แต่หากคิดว่าคุ้มค่าก็ค่อยนำเงินมามอบให้เรา”
เศรษฐีใหม่ผู้โง่เขลากลับถึงบ้านยามค่ำ
มองเห็นผู้เป็นภรรยากำลังนอนอยู่กับคนอีกผู้หนึ่งบนเตียงของตน แต่ในความมืดสลัวไม่ทราบว่าเป็นใคร
เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงบันดาลโทสะเพราะเข้าใจว่าภรรยานอกใจ ฉวยมีดพร้าหวังบั่นคอคนผู้นั้น
แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ พลันนึกถึงคำกล่าวของพระที่ขายปัญญาให้กับเขาเมื่อตอนกลางวัน
จึงได้ก้าวเดินไปข้างหน้า 3 ก้าว
จากนั้นถอยหลัง 3 ก้าว กลับไป-มา 3 รอบ
พอดีกับที่บุคคลนิรนามที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกับภรรยาของเขาตื่นขึ้นมา และร้องถามว่า
“ลูกเอ๋ย ดึกดื่นป่านนี้ เจ้าเดินทำอะไรอยู่?”
เมื่อได้ยิน
เศรษฐีใหม่ผู้โง่เขลาจึงค่อยทราบว่า ที่แท้ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงกับภรรยาของเขาก็คือมารดาบังเกิดเกล้าของเขาเอง
ในใจจึงได้คิดว่า “หากข้าไม่ซื้อปัญญามาเมื่อกลางวัน
วันนี้คงได้สังหารมารดาของตนเองเป็นแน่”
เช้าวันรุ่งขึ้น
เศรษฐีใหม่จึงนำเงินค่าปัญญาไปถวายพระด้วยความยอมรับนับถือ
ปัญญาเซ็น :
ความระลึกได้ ความไม่เผลอ การคุมใจไว้กับกิจ นั่นคือสติ สติมาปัญญาเกิด
สติเตลิดย่อมเกิดปัญหา
ที่มา : หนังสือ 《菩提树下听禅的故事》, 惟真
เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 中国华侨出版社, 2004.08, ISBN 7-80120-851-X
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น