นิทานเซ็น พร่ามึนแผ่นทอง
ในสมัยฮ่องเต้ถังเจาจง
มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาฝีฝักบัวผู้หนึ่ง นามว่า เมิ่งฝู่
ซึ่งมีฝีมือโด่งดังทั่วแผ่นดิน เนื่องจากวิธีการรักษามีเคล็ดลับเฉพาะตัวที่แตกต่างจากแพทย์ผู้อื่น
ทั้งย้งรักษาให้คนไข้หายขาดจากโรคได้ทุกราย ดังนั้นคราใดที่ในวังปรากฏผู้เป็นโรคฝีฝักบัว
ก็มักจะตามเมิ่งฝู่ เข้าไปให้การรักษาเสมอๆ
เวลาผ่านไปหลายปีเกิดมีสงครามขึ้น ณ
เมืองหลวง เมิ่งฝู่จึงเดินทางย้ายไปพำนักยังเมืองเสฉวน และเนื่องจากช่วงหลายปีที่เคยได้ใกล้ชิดวังหลวงในเมืองฉางอาน
ทำให้เขาจดจำการตกแต่งวังหลวงได้อย่างขึ้นใจ ทั้งยังเป็นแพทย์ผู้มั่งคั่ง ทำให้เมิ่งฝู่ตกแต่งห้องๆ
หนึ่งในบ้านใหม่ ณ เมืองเสฉวน โดยเลืยนแบบห้องในวังหลวง
ซึ่งตกแต่งได้อย่างหรูหราประณีต ประตูหน้าต่างงามวิจิตร ตั่ง เตียง เก้าอี้
เครื่องใช้ต่าง ๆ ในห้องล้วนปิดไว้บาง ๆ ด้วยแผ่นทองคำเปลว ทำให้เมื่อย่างเท้าก้าวเข้าไปในห้อง
จึงสว่างเจิดจ้าไปด้วยแสงสะท้อนของทองคำ ละลานจนสายตาผู้มองพร่าเลือน
ทุกครั้งที่มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง
หรือแขกเหรื่อมาเยี่ยมเยียน เมิ่งฝูต่างพามาชื่นชมห้องน้อยแห่งนี้ ซึ่งผู้พบเห็นต่างทอดถอนใจไปกับความงามของห้อง
และเมื่อแขกเหรื่อกลับไป ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “เมื่ออยู่ในห้องน้อยแปะทองคำทั่วห้องของแพทย์เมิ่งฝู่ได้เพียงครู่เดียว
ก็ให้รู้สึกพร่ามึนไปกับแผ่นทองคำเปลวที่มากมายเหล่านั้น”
“จื่อจุ้ยจินหมี”
หรือ “พร่ามึนแผ่นทอง” เดิมแปลตรงตัว
หมายถึง โดนแสงเจิดจ้าของแผ่นทองคำสะท้อนเข้าตาทุกทิศทุกทางจนพร่ามึน ภายหลังใช้เพื่อเปรียบเทียบถึงความหรูหราฟุ่มเฟือย
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000052332
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น