นิทานเซ็น
ใช้กลอุบายแย่งชิงสมบัติผู้อื่น
เฉียวฉู่หาวตั๋ว 《巧取豪夺》: ใช้กลอุบายแย่งชิงสมบัติผู้อื่น
นักกวีและจิตรกรรมสมัยราชวงศ์ซ่ง
ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง นามว่า หมี่เฟ่ย นั้น มีบุตรชายผู้หนึ่ง นามว่า
หมี่โหย่วเหริน ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับบิดาคือถนัดการเขียนอักษรและวาดภาพจีน ทั้งยังคลั่งไคล้ผลงานของศิลปินโบราณ
ครั้งหนึ่ง หมี่โหย่วเหรินพบสมุดบันทึกลายมือของ หวังซีจือ อยู่บนเรือของผู้อื่นที่ตนนั่งไป
จึงเกิดความอยากได้จนขอแลกกับภาพชั้นดีภาพหนึ่ง แต่เจ้าของเรือไม่ยินยอม เขาจึงโวยวายเสียงดัง
ทั้งยังออกท่าทางจนเรือโคลง ตนเองพลัดตกลงน้ำ ทว่าโชคดีที่มีผู้พบเห็นมาช่วยไว้ได้ทัน
หมี่โหย่วเหริน
มีความสามารถอีกประการหนึ่งคือลอกเลียนผลงานศิลปะ คราที่เขาอยู่ที่เมืองเหลียนสุ่ย
ได้เคยขอยืมภาพ วัว (ซงหนิว) เพื่อไปลอกเลียน แต่สุดท้ายเขากลับยึดเอาภาพจริงไว้และส่งคืนภาพที่วาดขึ้นมาใหม่ให้เจ้าของ
ภาพแทน ซึ่งในตอนนั้นเจ้าของภาพไม่ได้เอะใจ ผ่านไปหลายวันเมื่อทราบความจริงจึงได้นำภาพมาขอแลกคืน
หมี่โหย่วเหรินจึงถามเจ้าของภาพว่าทราบได้อย่างไรว่าภาพดังกล่าวเป็นของทำ เลียนแบบ
เจ้าของภาพจึงกล่าวว่า “ภาพของแท้นั้น
ลูกนัยน์ตาวัวมีเงาสะท้อนของคนเลี้ยงวัวอยู่ แต่ภาพที่ท่านคืนเรามากลับไม่มี”
อย่างไรก็ตาม
แม้ครานี้จะมีข้อให้จับได้ แต่โดยปกติแล้ว งานลอกเลียนแบบของหมี่โหย่วเหรินน้อยครั้งจะมีข้อผิดพลาดให้สังเกตเห็น
เขาจึงมักจะใช้วิธีการขอหยิบยืมภาพต้นฉบับเพื่อนำไปลอกเลียน จากนั้นจึงนำทั้งภาพจริงและภาพเลียนแบบส่งคืนเจ้าของเพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของ
เลือกว่าภาพไหนกันแน่เป็นภาพต้นฉบับ แต่ด้วยความที่ลอกเลียนได้อย่างแนบเนียน ทำให้บ่อยครั้งที่เจ้าของกลับเลือกภาพเลียนแบบกลับไปเพราะเข้าใจว่าเป็นภาพ
เดิมของตน ซึ่งด้วยวิธีนี้ ทำให้หมี่โหย่ว
เหรินสะสมภาพต้นฉบับของศิลปินชื่อดังไว้ได้ไม่น้อย
เหรินสะสมภาพต้นฉบับของศิลปินชื่อดังไว้ได้ไม่น้อย
จริง ๆ
แล้วหมี่โหย่วเหรินเป็นศิลปินที่มีทักษะยอดเยี่ยม คู่ควรให้คนยกย่องนับถือ ทั้งยังเป็นผู้สืบทอดวิชาศิลปะของศิลปินในสมัยโบราณให้ลูกหลานได้เรียนรู้
แต่ด้วยความที่เขามักใช้วิธีเล่นเล่ห์เพทุบายยึดเอาสมบัติผู้อื่นมาเป็นของ ตัว
ทำให้ผู้คนรู้สึกรังเกียจดูแคลน
ต่อมา ผู้คนพากันเรียกวิธีการที่หมี่โหย่วเหรินใช้หลอกลวงเอางานศิลปะโบราณของผู้
อื่นมาเป็นของตัว ว่า “เฉียวฉู่หาวตั๋ว”
เป็นการเปรียบเทียบถึงคนที่ใช้วิธีคดโกงในการยึดเอาสมบัติของคนอื่นมาเป็น
ของตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น