นิทานเซ็น จิงเว่ยถมทะเล
ในอดีตกาล
เล่ากันว่าพระเจ้า “เอี๋ยนตี้”*
มีธิดาองค์หนึ่ง นามว่า “หนี่ว์วา” ซึ่งมีศิริโฉมงดงามทั้งยังฉลาดน่ารัก ขนาดที่ว่าเมื่อพระเจ้า “หวงตี้”* มาพบนางยังอดไม่ได้ที่จะกล่าวคำชื่นชม ทำให้พระเจ้าเอี๋ยนตี้ทรงทะนุถนอมธิดาผู้นี้ดั่งมุกมณีอันมีค่ายิ่ง
หนี่ว์วานั้น
ใฝ่ฝันที่จะให้เอี๋ยนจี้ผู้เป็นบิดาพาไปยังทะเลตะวันออก เพื่อชมดูพระอาทิตย์ขึ้น
ทว่า เอี๋ยนตี้ยุ่งอยู่กับการปกครองผู้คน พระอาทิตย์ขึ้นทางทะเลตะวันออก
กระทั่งพระอาทิตย์ตก วนเวียนไปวันแล้ววันเล่า
เอี๋ยนตี้ก็ยังไม่มีเวลาพาบุตรสาวออกไปชมดู
วันหนี่ง
หนี่ว์วามิได้บอกกับบิดา หากแต่พายเรือมุ่งหน้าไปยังทะเลตะวันออกที่ซึ่งพระอาทิตย์ขึ้นตามลำพัง
แต่โชคร้ายที่วันนั้นท้องทะเลกลับมีคลื่นสูงดั่งขุนเขาโถมซัดจนเรือของนาง อับปาง
หนี่ว์วาจมลงสู่ท้องทะเลลึก โดนท้องทะเลที่ไร้ความปรานีกลืนกินร่าง มิอาจกลับมาหาบิดาได้ตลอดกาล
หนี่ว์วาสิ้นชีพแล้ว
ทว่า วิญญาณของนางกลับอยู่ในร่างของนกน้อยตัวหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะหัวลาย
จงอยปากสีขาว อุ้งเท้าสีแดง ร้องด้วยน้ำเสียงราวกับโศกเศร้าอยู่เป็นนิจว่า “จิงเว่ย จิงเว่ย” ดังนั้นผู้คนจึงต่างเรียกนกตัวนี้ว่า “จิงเว่ย”
จิงเว่ยมีความคั่งแค้นท้องทะเลยิ่งนักที่ไร้ความเมตตา
พรากชีวิตที่ยังคงสาวสะพรั่งของนางไป จึงตั้งใจที่จะแก้แค้น ดังนั้น จึงเพียรคาบหินก้อนเล็ก
กิ่งไม้ และเมล็ดพืชจากเขาฟาจิวที่อาศัยอยู่ บินไปทิ้งยังท้องทะเลตะวันออก หวังจะถมทะเลให้เต็ม
เพื่อเป็นการแก้แค้น
ท้องทะเลเห็นดังนั้น
ก็ม้วนลูกคลื่นคำรามหัวเราะเยาะจิงเว่ย “เจ้านกน้อย งานนี้ของเจ้า
ต่อให้ทำไปอีกล้านปีก็อย่าหวังว่าจะถมข้าให้เต็มได้!”
จิงเว่ยกล่าวโต้ตอบลงมาจากท้องฟ้า
“ต่อให้ข้าต้องทำอีกสิบล้านปี
อีกร้อยล้านปี ทำจนจักรวาลนี้แตกดับ ทำจนถึงวันสุดท้ายของโลกนี้ ข้าก็จะทำให้ท่านถูกถมจนเต็มให้ได้”
“เหตุใดเจ้าจึงเกลียดแค้นข้าถึงปานนั้น?”
ทะเลถามด้วยความสงสัย
จิงเว่ยตอบว่า “เพราะท่านพรากเอาชีวิตวัยสาวของข้าไป
และในอนาคตท่านก็คงจะพรากเอาชีวิตของบรรดาหนุ่ม-สาวที่โชคร้ายไปอีก!”
จิงเว่ยบินพลาง
ร้องพลาง ออกห่างจากท้องทะเลไปเพื่อกลับไปเอาเศษหินมาเดินหน้าทำงานถมทะเลโดยไม่หยุด
พักผ่อน จากนั้นไม่นาน มีนกนางแอ่นทะเลตัวเห็นบังเอิญเห็นสิ่งที่จิงเว่ยทำ ในตอนแรกก็งุนงงสงสัยเช่นกัน
แต่เมื่อทราบความกระจ่างแจ้งแล้วก็ประทับใจในความมุ่งมั่นของจิงเว่ย จึงปลงใจอยู่กินกับจิ่งเว่ยอย่างผัว-เมีย
จากนั้นจึงให้กำเนิดลูกนกอีกมากมาย ลูกนกตัวผู้คล้ายนกนางแอ่นทะเล ส่วนลูกนกตัวเมียก็เหมือนจิงเว่ย
ซึ่งบรรดานกจิงเว่ยน้อย ๆ เหล่านี้ก็พากันทำตามผู้เป็นแม่ คาบก้อนหินไปทิ้งทะเล สืบเนื่องมาจนกระทั่งทุกวันนี้
ความพากเพียรของจิงเว่ย
ที่พยายามจะถมทะเล แม้รู้ว่าเป็นสิ่งที่ยากเย็นและต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่งนั้น เป็นที่ประทับใจและยกย่องของผู้คนสืบมา
เดิมสำนวน “จิงเว่ยเถียนไห่”
หรือ “จิงเว่ยถมทะเล” ใช้เพื่อเปรียบเปรยถึงความแค้นที่ฝังลึกรอการแก้แค้น
แต่ในภายหลังหมายถึง จิตใจที่มุ่งมั่นพากเพียร ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ
อธิบายความ * : “เอี๋ยนตี้” กับ “หวงตี้” นั้น ชาวจีนเชื่อว่าทั้งสองเป็นหัวหน้าชนเผ่าจีนยุคดึกดำบรรพ์
ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชนชาติจีน ดังคำกล่าวที่ว่าชาวจีนทั้งหลายล้วนเป็น “เอี๋ยนหวงจื่อซุน” ซึ่งแปลว่า ชาวจีนทั้งหลายล้วนเป็นลูกหลานของเอี๋ยนตี้และหวงตี้นั่นเอง
สำนวนนี้ใช้ในตำแหน่งภาคแสดง(谓语) หรือส่วนขยายนาม
(定语)
ตัวอย่างประโยค
你要有 “精卫填海” 的精神,奋斗不息,才能达成最高的目标。
คุณจะต้องมีจิตใจที่ ~ เดินหน้าต่อสู้ต่อไป จึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดได้
คุณจะต้องมีจิตใจที่ ~ เดินหน้าต่อสู้ต่อไป จึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดได้
ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000058487
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น