10/7/56

นิทานเซ็น จิงเว่ยถมทะเล



นิทานเซ็น จิงเว่ยถมทะเล
ในอดีตกาล เล่ากันว่าพระเจ้า เอี๋ยนตี้”* มีธิดาองค์หนึ่ง นามว่าหนี่ว์วาซึ่งมีศิริโฉมงดงามทั้งยังฉลาดน่ารัก ขนาดที่ว่าเมื่อพระเจ้าหวงตี้”* มาพบนางยังอดไม่ได้ที่จะกล่าวคำชื่นชม ทำให้พระเจ้าเอี๋ยนตี้ทรงทะนุถนอมธิดาผู้นี้ดั่งมุกมณีอันมีค่ายิ่ง
หนี่ว์วานั้น ใฝ่ฝันที่จะให้เอี๋ยนจี้ผู้เป็นบิดาพาไปยังทะเลตะวันออก เพื่อชมดูพระอาทิตย์ขึ้น ทว่า เอี๋ยนตี้ยุ่งอยู่กับการปกครองผู้คน พระอาทิตย์ขึ้นทางทะเลตะวันออก กระทั่งพระอาทิตย์ตก วนเวียนไปวันแล้ววันเล่า เอี๋ยนตี้ก็ยังไม่มีเวลาพาบุตรสาวออกไปชมดู
วันหนี่ง หนี่ว์วามิได้บอกกับบิดา หากแต่พายเรือมุ่งหน้าไปยังทะเลตะวันออกที่ซึ่งพระอาทิตย์ขึ้นตามลำพัง แต่โชคร้ายที่วันนั้นท้องทะเลกลับมีคลื่นสูงดั่งขุนเขาโถมซัดจนเรือของนาง อับปาง หนี่ว์วาจมลงสู่ท้องทะเลลึก โดนท้องทะเลที่ไร้ความปรานีกลืนกินร่าง มิอาจกลับมาหาบิดาได้ตลอดกาล
หนี่ว์วาสิ้นชีพแล้ว ทว่า วิญญาณของนางกลับอยู่ในร่างของนกน้อยตัวหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะหัวลาย จงอยปากสีขาว อุ้งเท้าสีแดง ร้องด้วยน้ำเสียงราวกับโศกเศร้าอยู่เป็นนิจว่า จิงเว่ย จิงเว่ยดังนั้นผู้คนจึงต่างเรียกนกตัวนี้ว่า จิงเว่ย
จิงเว่ยมีความคั่งแค้นท้องทะเลยิ่งนักที่ไร้ความเมตตา พรากชีวิตที่ยังคงสาวสะพรั่งของนางไป จึงตั้งใจที่จะแก้แค้น ดังนั้น จึงเพียรคาบหินก้อนเล็ก กิ่งไม้ และเมล็ดพืชจากเขาฟาจิวที่อาศัยอยู่ บินไปทิ้งยังท้องทะเลตะวันออก หวังจะถมทะเลให้เต็ม เพื่อเป็นการแก้แค้น
ท้องทะเลเห็นดังนั้น ก็ม้วนลูกคลื่นคำรามหัวเราะเยาะจิงเว่ย เจ้านกน้อย งานนี้ของเจ้า ต่อให้ทำไปอีกล้านปีก็อย่าหวังว่าจะถมข้าให้เต็มได้!
จิงเว่ยกล่าวโต้ตอบลงมาจากท้องฟ้า ต่อให้ข้าต้องทำอีกสิบล้านปี อีกร้อยล้านปี ทำจนจักรวาลนี้แตกดับ ทำจนถึงวันสุดท้ายของโลกนี้ ข้าก็จะทำให้ท่านถูกถมจนเต็มให้ได้
เหตุใดเจ้าจึงเกลียดแค้นข้าถึงปานนั้น?” ทะเลถามด้วยความสงสัย
จิงเว่ยตอบว่า เพราะท่านพรากเอาชีวิตวัยสาวของข้าไป และในอนาคตท่านก็คงจะพรากเอาชีวิตของบรรดาหนุ่ม-สาวที่โชคร้ายไปอีก!
จิงเว่ยบินพลาง ร้องพลาง ออกห่างจากท้องทะเลไปเพื่อกลับไปเอาเศษหินมาเดินหน้าทำงานถมทะเลโดยไม่หยุด พักผ่อน จากนั้นไม่นาน มีนกนางแอ่นทะเลตัวเห็นบังเอิญเห็นสิ่งที่จิงเว่ยทำ ในตอนแรกก็งุนงงสงสัยเช่นกัน แต่เมื่อทราบความกระจ่างแจ้งแล้วก็ประทับใจในความมุ่งมั่นของจิงเว่ย จึงปลงใจอยู่กินกับจิ่งเว่ยอย่างผัว-เมีย จากนั้นจึงให้กำเนิดลูกนกอีกมากมาย ลูกนกตัวผู้คล้ายนกนางแอ่นทะเล ส่วนลูกนกตัวเมียก็เหมือนจิงเว่ย ซึ่งบรรดานกจิงเว่ยน้อย ๆ เหล่านี้ก็พากันทำตามผู้เป็นแม่ คาบก้อนหินไปทิ้งทะเล สืบเนื่องมาจนกระทั่งทุกวันนี้
ความพากเพียรของจิงเว่ย ที่พยายามจะถมทะเล แม้รู้ว่าเป็นสิ่งที่ยากเย็นและต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่งนั้น เป็นที่ประทับใจและยกย่องของผู้คนสืบมา เดิมสำนวน จิงเว่ยเถียนไห่หรือจิงเว่ยถมทะเลใช้เพื่อเปรียบเปรยถึงความแค้นที่ฝังลึกรอการแก้แค้น แต่ในภายหลังหมายถึง จิตใจที่มุ่งมั่นพากเพียร ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ
อธิบายความ * : เอี๋ยนตี้กับ หวงตี้นั้น ชาวจีนเชื่อว่าทั้งสองเป็นหัวหน้าชนเผ่าจีนยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชนชาติจีน ดังคำกล่าวที่ว่าชาวจีนทั้งหลายล้วนเป็นเอี๋ยนหวงจื่อซุนซึ่งแปลว่า ชาวจีนทั้งหลายล้วนเป็นลูกหลานของเอี๋ยนตี้และหวงตี้นั่นเอง
สำนวนนี้ใช้ในตำแหน่งภาคแสดง(谓语) หรือส่วนขยายนาม (定语)
ตัวอย่างประโยค
你要有精卫填海的精神,奋斗不息,才能达成最高的目标。
คุณจะต้องมีจิตใจที่ ~ เดินหน้าต่อสู้ต่อไป จึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดได้

ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000058487

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น