10/7/56

นิทานเซ็น กระจกแตกกลับประสาน



นิทานเซ็น กระจกแตกกลับประสาน

โพ่วจิ้งฉงหยวน : กระจกแตกกลับประสาน
ในยุคราชวงศ์ใต้ ฮ่องเต้องค์สุดท้ายแห่งรัฐเฉินนาม เฉินป้าเซียนนั้น มีขนิษฐานางหนึ่งนามว่า เล่อชาง ซึ่งมีศิริโฉมครบถ้วนตามองค์ประกอบของหญิงงามแห่งยุค อีกทั้งความสัมพันธ์ของนางและคู่ครองคือ สีว์เต๋อเอี๋ยน ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยขององค์ฮ่องเต้นั้นก็เป็นไปด้วยดี
ครั้นเมื่อกองกำลังทหารของราชวงศ์สุยทางตอนเหนือบุกลงมาโจมตี ส่งผลให้รัฐเฉินตกอยู่ในความเสี่ยงยิ่งนัก เมื่อเห็นดังนั้น สีว์เต๋อเอี๋ยน จึงตระหนักว่าตนและภรรยาคงจะไม่มีวาสนาได้ครองคู่กันต่อไป จึงนำกระจกบานหนึ่งมาทุบแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งมอบให้องค์หญิง อีกส่วนเก็บไว้ที่ตนเอง ทั้งสองสัญญากันว่า วันใดหากโชคร้ายต้องพลัดพรากกันไป เมื่อถึงวันพระจันทร์เต็มดวงของวันขึ้นปีใหม่ ให้ทั้งคู่นำกระจกครึ่งบานนั้นออกมาเร่ขายที่ท้องถนน เพื่อได้มีโอกาสพบกันอีกครั้ง
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ไม่นานรัฐเฉินก็ถูกสุยล้มล้างไปดังคาด สีว์เต๋อเอี๋ยนและเล่อชางพลัดพรากจากกันไปด้วยเหตุแห่งชะตากรรม โดยองค์หญิงเล่อชางตกเป็นของหยางซี่ว์ เสนาบดีใหญ่คู่ใจฮ่องเต้สุยเหวินตี้
เมื่อวันขึ้นปีใหม่เวียนมาถึงอีกครั้ง สีว์เต๋อเอี๋ยนจึงได้นำกระจกครึ่งบานออกมาเร่ขายตามคำสัญญา ปะเหมาะพอดีพบเด็กรับใช้ผู้หนึ่งนำกระจกอีกครึ่งบานออกมาเร่ขายเช่นกัน เขาจึงเข้าไปตรวจสอบดู พบว่าเป็นกระจกครึ่งบานที่บรรจบได้พอดีกับอีกครึ่งของตนเอง ซึ่งก็คือกระจกครึ่งที่เขามอบให้นางอันเป็นที่รักไปก่อนพรากจาก
เมื่อพบกระจกใจจึงกระหวัดถึงเจ้าของ สีว์เต๋อเอี๋ยนอดมิได้จึงหลั่งน้ำตาออกมา จากนั้นได้จารึกบทกวีไว้บนบานกระจกครึ่งที่ได้พบว่า
กระจกพรากคนจาก
กระจกหวนคืน แต่คนไม่
ไร้เงา นางฉางเอ๋อ(นางเซียนในเทพนิยายจีน)
ลับอับแสง ตะวัน-จันทรา
เด็กรับใช้นำกระจกครึ่งที่จารึกบทกวีไว้นั้นกลับไปมอบให้องค์หญิงเล่อชาง ทำให้องค์หญิงโศกเศร้ายิ่งนัก ภายหลังเสนาบดีหยางซี่ว์ล่วงรู้เรื่องดังกล่าว จึงได้ให้คนไปเชิญสีว์เต๋อเอี๋ยนมาที่บ้าน และยอมปล่อยองค์หญิงเล่อชางให้กับสีว์เต๋อเอี๋ยน ต่อมาทั้งสองจึงเดินทางกลับเจียงหนันด้วยกัน ครองคู่จนแก่เฒ่า
สำนวน โพ่วจิ้งฉงหยวนหรือ กระจกแตกกลับประสานใช้เปรียบเปรยถึงสามี ภรรยาที่เลิกรากัน หรือพลัดพรากจากกัน แล้วได้กลับมาครองคู่กันดังเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น